เป็นครั้งแรกที่มีสาวสวยจากเวียดนามคว้ารางวัลเกียรติยศ Best in Bikini จากการประกวดเวทีระดับโลก ลือถิซเวียมเฮือง (Luu Thi Diem Huong) เป็นคนสร้างประวัติการณ์นี้ นักศึกษาสาวชั้นปีที่ 2 วัย 20 ปีจากนครโฮจิมินห์ครองหัวใจชาวเวียดนามมา 2 งานแล้ว ปัจจุบันสาวสวยเกือบ 90 คนจากประเทศและดินแดนทั่วโลกกำลังร่วมประกวด Miss Earth 2010 ที่เวียดนามเป็นเจ้าภาพจัดครั้งแรก Photos by VietnamExpress ASTVผู้จัดการออนไลน์-- การประกวดผ่านมาเกือบ 1 สัปดาห์ แต่ชาวเวียดนามก็ยังฮือฮากันไม่หยุด การคว้าตำแหน่งสาวงาม "สวยที่สุดในชุดว่ายน้ำ" (Best in Swimsuit) ของลือถิซเวียมเฮือง (Luu Thi Diem Huong) ในเวทีมิสเอิร์ธ 2010 เป็นการสร้างประวัติการณ์ใหม่ให้แก่วงการประกวดความสวยความงามของประเทศนี้ ที่ยังไม่เคยมีสาวงามคนไหน ได้รางวัลอะไรจากเวทีใหญ่กลับบ้าน ข่าวนี้ยังครองใจชาวเน็ตไม่ต่างไปจาก ข่าวนักกีฬาเวียดนาม ชนะได้เหรียญทองเหรียญแรกในเอเชียเกมส์ที่นครกว่างโจว เหตุการณ์นี้จึงไม่ธรรมดา น้องเฮืองเป็นสาวเวียดนามคนแรกที่ไปคว้าตำแหน่งสำคัญนี้ในการประกวดเวทีระดับโลก เฉียดเข้าใกล้ที่สุดเท่าที่เคยทำได้ก็คือ เจิ่นถิเฮืองซยาง (Tran Thi Huong Giang) ที่ได้รองอันดับ 1 มิสบิกินีในเวทีมิสเวิลด์ 2009 ที่แอฟริกาใต้ การประกวดสาวสวยในชุดว่ายน้ำ จัดขึ้นตั้งแต่วันศุกร์ 30 พ.ย.ที่ทวนถาวรีสอร์ต (Thuan Thao Resort) จ.ฝูเอียน (Phu Yen) ถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ VTV 9 กับ VTV 4 สองช่องพร้อมกัน ซเวียมเฮืองเอาชนะสาวงามตัวเก็งจากโคลัมเบีย อย่างพลิกความคาดหมาย และ ทำให้ขาใหญ่อย่างมิสเวเนซูเอลากลายเป็นรองของเธอ เฮืองได้รับเงินรางวัล 1,000 ดอลลาร์ "เธอสวมทูพีชสีชมพูเจิดจ้า ก้าวออกมายังเวทีอย่างเฉิดโฉมและเชื่อมั่น ทันใดนั้นผู้ชมนับล้านในเวียดนามพากันปรบมือกึกก้องยาวนาน.. การเดินเหินอย่างมีจังหวัดจะโคนและดูแคล่วคล่องลงตัว ทำให้สาวชาวเวียดนามทะยานขึ้นแถวหน้า" สำนักข่าวเวียดนามเอ็กซ์เพรสบรรยายเอาไว้ในคืนนั้น อีก 3 คนที่ติดอันดับรองลงไป ได้แก่สาวสวยจากเอกวาดอร์ สาธารณรัฐเช็ค และนอร์เวย์ ส่วนสาวโคลัมเบียตัวเก็งสุดเกร็ง กลับไม่เข้ากลุ่มด้วย มีหลายคนถามว่าเป็นเพราะเกรงใจประเทศเจ้าภาพหรือเปล่า? เปล่าเลย.. ชาวเน็ตหลายคนตอบ เวียดนามเคยเป็นเจ้าภาพจัดประกวดมาแล้วทั้งมิสเวิลด์ และมิสยูนิเวิร์ส ไม่เห็นมีกรรมการคนไหนเกรงใจ มอบตำแหน่งโน้นตำแหน่งนี้ให้... ตรงข้ามซเวียมเฮืองเป็นสาวงามที่ชาวเวียดนามภาคภูมิใจ (โปรดเลื่อนลงเพื่ออ่านต่อ) เป็นประวัติการณ์ 2 3 4 5 6 เธอคว้าตำแหน่งมิสเวียดนามมีสโกลบอล 2010 อย่างขาวสะอาดในการประกวดที่เมืองญาจาง (Nha Trang) จ.แค๊งฮวา (Khanh Hoa) ในเดือน ส.ค.ปีนี้ คว่ำสาวนักเรียนนอกไปตั้ง 2 คน และ กองประกวดได้ถนอมสาวเฮืองเอาไว้สู้เวทีมิสเอิร์ธ 2010 ที่เวียดนามเป็นเจ้าภาพจัดครั้งแรก สัปดาห์กลางเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา ซเวียมเฮืองยังได้คะแนนโหวตเป็นอันดับ 1 บนเว็บไซต์มิสโสโสโลยี (Missosology.com) ภาพในชุดว่ายน้ำของเธอตรึงตาตรึงใจคนทั้งโลก เวียดนามเอ็กซ์เพรสกล่าว “ผมตายอย่างเป็นสุขแล้วที่ได้เห็นเธอไปไกลขนาดนี้” แฟนพันธุ์แท้กล่าวเอาไว้ในเว็บไซต์แฟนคลับ เฮืองไม่ได้มีอะไรเป็นสองรองใครในจักรภาพ อายุ 20 ปีสูง 171 ซม. หนัก 53 กก. ความสูงอาจจะเสียเปรียบสาวๆ ชาวยุโรปหรือเมริกา แต่พิกัดรอบตัว 82-61-92 เหลือรับประทาน และ มีประกันจากเวทีมิสเวียดนามมีสโกลบอล เป็นของแท้ๆ คุณแม่ให้มาล้วนๆ ปัจจุบันกำลังเรียนชั้นปีที่ 2 คณะบริหารจัดการการโรงแรมและการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยหว่าเซน (Hoa Sen University) สถาบันที่มีชื่อเสียงด้านบริหารจัดการ ในนครโฮจิมินห์บ้านเกิด (โปรดเลื่อนลงเพื่ออ่านต่อ) รู้จักสาวคนนี้อีกหน่อย 7 8 9 10 11 หลังครองมงกุฎมิสเวียดนามโกลบอล ซเวียมเฮืองถ่ายภาพแฟชั่นมาแล้วหลายครั้งในนิตยสารต่างๆ ทั้งชุดอ๋าวหย่ายประจำชาติ ราตรียาวและชุดว่ายน้ำ ภาพครองเธอ ติดตาและครองใจแฟนๆ มาตลอด ทำไมข่าวของเธอจึงจะไม่ท็อปฮิตติดอันดับเล่า? ปัจจุบันสาวงามเกือบ 90 คนจากประเทศและดินแดนต่างๆ ทั่วโลก กำลังร่วมประกวดในเวียดนาม ที่ผ่านมามีกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์และกิจกรรมสร้างสรรค์ต่างๆ มากมาย เฟื้อเฟ้นหาตัวสาวงามภายใต้สโลแกน "สวยอย่างมีภาระหน้าที่" ในการจรรโลงสภาพแวดล้อม การประกวดรอบสุดท้ายมีกำหนดในเดือน ธ.ค.นี้ ที่ญาจาง. ผืนพิภพนี้มิเคยแล้งสาวงาม 12 13 14 15 16 17 18 19 20

ผู้ชมกว่า 30,000 คน กำลังทะยอยเข้ารับรู้ประสบการณ์เสมือนจริงในนิทรรศการภาพเขียนโบราณ ที่ล้ำค่าติด 1 ใน 10 ของจีน ซึ่งถูกนำมาปลุกชีวิตขึ้นใหม่ด้วยเวทย์มนตร์ของเทคโนโลยียุคปัจจุบัน (ภาพ SCMP)

เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์ - ฮ่องกงเปิดนิทรรศการสุดไฮเทค "River of Wisdom" (สายธารแห่งภูมิปัญญา) แสดงภาพเขียนโบราณจีน ที่มีชื่อเสียง ติดหนึ่งในสิบสุดยอดภาพเขียนของจีน มีชื่อว่า “ชิงหมิงซั่งเหอถู่" (清明上河图) ถ่ายทอดชีวิตของชาวจีน ในช่วงเทศกาลชิงหมิง สมัยราชวงศ์ซ่ง 900 กว่าปีก่อน

สื่อรายงานวันที่ 9 พ.ย. ซึ่งเป็นวันแรกของการเปิดนิทรรศการสุดไฮเทค ที่เอเชีย เวิร์ล เอ็กซ์โป ฮ่องกง เพื่อแสดงภาพเขียนโบราณของจีนด้วยระบบดิจิตอล ซึ่งวันแรกนี้ มีผู้มาเข้าแถวซื้อบัตรรอชม มากกว่า 30,000 คน โดยรูปแบบของการแสดงชุดนี้ ได้ผสมผสานเทคโนโลยีนิทรรศการที่ล้ำยุค เข้ากับภาพเขียนโบราณ เพื่อส่งผ่านเรื่องราวจากอดีต 900 ปี ที่แล้ว มาสู่จินตนาการของผู้ชมในปัจจุบัน

ผู้ชมกำลังเฝ้ามองมิติชีวิตอีกภพ ที่กำลังเคลื่อนไปตรงหน้าอย่างช้าๆ (ภาพเอเยนซี)

ภาพเขียนทัศนียภาพและชีวิตผู้คนริมฝั่งแม่น้ำ ช่วงเทศกาลชิงหมิง (เชงเม้ง) ของจัง เจ๋อตวน จิตรกรในสมัยราชวงศ์ซ่งเหนือ ( ค.ศ. 960-1127) ซึ่งสันนิษฐานว่าเขียนขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1111-1126 ในรูปแบบดิจิตอลนี้ ได้ปลุกชีวิตของผู้คนเมืองเปียนเหลียง (ปัจจุบันคือ ไคฟง ในเหอหนาน) เมื่อ 900 ปีก่อน กลับมาเดินไปมาริมฟากฝั่งแม่น้ำ อีกครั้งอย่างน่าตื่นตายิ่ง

ข่าวรายงานว่า ผู้ชมจำนวนมากได้แต่ยืนนิ่ง ถูกดึงเข้าไปอยู่ในเรื่องราวบนภาพเขียนที่เคลื่อนไหลไปดังสายน้ำ บนจอสกรีนขนาดใหญ่สูง 6 เมตร ยาว120 เมตร โดยนิทรรศการไฮเทคนี้ ได้เป็นไฮไลท์สำคัญดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากในงานเซี่ยงไฮ้เวิร์ลเอ็กซ์โป ที่เพิ่งสิ้นสุดไป และว่ากันว่า ภาพนี้คือหัวใจสำคัญของเนื้อหาการจัดงานเอ็กซโป ซึ่งเผยให้เห็นภูมิปัญญาจีนที่ลึกซึ้งในการพัฒนาบ้านเมือง ตามคำ "Better city, Better life"

สิ่งที่น่าตื่นตาคือ ชีวิตชีวาที่ปรากฏออกมาจากผืนภาพต่างๆ ซึ่งแบ่งเป็น 3 ส่วน แตกต่างกันไปตามช่วงเวลาของวัน มีทั้งกลางวัน กลางคืนที่หมุนเวียนไปทุก 4 นาที โดยเริ่มจากรุ่งอรุณที่ชนบทนอกเมือง ซึ่งเผยภูมิประเทศเป็นทุ่งราบกว้าง มีหมอกปกคลุมตามท้องไร่ ทุ่งนาชนบทห่างไกล

เรื่องราวบนภาพเขียนที่เคลื่อนไหลไปดังสายน้ำ บนจอสกรีนขนาดใหญ่สูง 6 เมตร ยาว120 เมตร (ภาพเอเยนซี)

จากนั้นก็เริ่มมีเรือสินค้าขนาดใหญ่หลายลำเคลื่อนอยู่ในแม่น้ำ และบรรดาลูกเรือ และกุลีเร่งทำงานกันบนเรือ ซึ่งคึกคักยิ่งขณะที่เรือกำลังจะลอดใต้สะพานโค้ง และภาพชีวิตนี้ก็เคลื่อนนำสายตามาที่ประตูเมืองเมื่อตกบ่ายแล้ว

โดยตลอดความยาวของภาพโบราณที่นำมาจัดแสดงอย่างไฮเทคนี้ เน้นการบอกเล่าเรื่องราวซึ่งล้วนเต็มไปด้วยรายละเอียดซึ่งเคยปรากฏในบรรยากาศการดำเนินชีวิตจริงของชาวจีนยุคก่อน

รายงานข่าวกล่าวว่า การสร้างนิทรรศการชุดนี้ ต้องใช้โปรเจคเตอร์จำนวนหลายสิบตัวเพื่อขยายภาพเขียนให้ใหญ่กว่าต้นฉบับถึง 30 เท่า (ต้นฉบับมีความกว้าง 24.8 ซ.ม. ยาว 5.28 เมตร) และอาศัยเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ปลุกชีวิตผู้คนและสิ่งของต่างๆ ในภาพโบราณนี้ นับเป็นงานระดับมาสเตอร์พีซ สำหรับการผสมผสานเทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อเชิดชูศิลปะโบราณอย่างลงตัว

บางส่วนของภาพเขียนต้นฉบับ ที่สามารถเก็บบันทึกข้อมูลทางประวัติศาสตร์จีน เมื่อ 900 ปีที่แล้ว ได้อย่างละเอียดยิบจนน่าทึ่ง (ภาพเอเยนซี)

คุณค่าทางประวัติศาสตร์ของภาพเขียนนี้ ยังเป็นเรื่องของการถ่ายทอดให้เห็นความเปลี่ยนแปลงซึ่งผสมผสานความเป็นเมืองกับชนบทของบ้านเมืองจีนยุคซ่งอย่างสมดุล โดยยุคนี้เป็นช่วงเวลาที่จีนมีความเจริญรุ่งเรือง และมีพัฒนาการที่รวดเร็วในทุกมิติ (อ่าน - ราชวงศ์ซ่งเหนือ 北宋)

ส่วนคุณค่าในเชิงศิลปะนั้น จิตรกร สามารถเขียนให้สัมผัสได้ถึงชีวิตในรูปคนซึ่งนับได้มากถึง 1,600 คน รวมทั้งอารมณ์สัตว์ต่างๆ กว่า 200 ตัว และเห็นกระทั่งความลึกตึ้น ทวนหรือตามของสายน้ำ และสายลมที่พัดไปทางทิศไหน

ทั้งนี้ ข่าวแจ้งว่าการแสดงนิทรรศการ "River of Wisdom" ในฮ่องกง นี้จะมีไปจนถึงวันที่ 29 พฤศจิกายนนี้

(คลิปนิทรรศการที่มีผู้ชมฯ ได้บันทึกนำมาลงในยูทูป)



(ภาพ “ชิงหมิงซั่งเหอถู่" (清明上河图) สมัยราชวงศ์ซ่ง ที่มีการนำมาทำเป็นภาพเคลื่อนไหวในหลายๆ เวอร์ชั่น)